หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2565

นักบุญวินเซนต์ เดอ ปอล (ค.ศ.1581-1660) ระลึกถึงวันที่ 27 กันยายน

  

นักบุญวินเซนต์ เดอ ปอล (ค.ศ.1581-1660)

ระลึกถึงวันที่ 27 กันยายน






ในศตวรรษที่ 16 พระศาสนจักรในประเทศฝรั่งเศสกำลังอยู่ในสภาพไม่สู้ปกติเท่าใดนัก เพราะได้มีรูปแบบที่กำกวมของบุคคลบางประเภทในพระศาสนจักรเองอันทำให้สถานการณ์ในพระศาสนจักรทรุดหนัก เพราะไปสนใจในเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองและเป็นผู้ที่มีลับลมคมใน ทว่าในเวลาเดียวกันก็ได้มีพระสงฆ์บางองค์ที่มีใจร้อนรนที่ได้พยายามทำให้เป็น โฉมหน้าที่แท้จริงของพระคริสตเจ้า โดยเชื่อแต่พระวรสาร นักบุญวินเซนต์ เดอ ปอล ก็เป็นพวกหลังนี้แหละ

นักบุญ วินเซนต์ เดอ ปอล เกิดจากครอบครัวชาวนาแห่งเมืองปุยในแถบเทือกเขาพีเรนีส ท่านได้เป็นสงฆ์เมื่ออายุเพียง 19 ปีเท่านั้น การทดลองและความทุกข์ยากลำบากต่างๆที่ท่านได้รับในชีวิตรวมทั้งตัวอย่างชีวิตของคาร์ดินัล เดอ เบรุลเลอ และของนักบุญฟรังซิส เดอซาลส์ ก็ได้มีอิทธิพลทำให้ท่านได้หันกลับมาหาพระคริสตเจ้าทั้งกายและใจ

ท่านได้เป็นคุณพ่อเจ้าวัดที่คลิซี ในกรุงปารีส และได้เป็นพระสงฆ์มีหน้าที่ดูแลพวกทาส ทั้งได้เป็นผู้อำนวยการขององค์การแห่งกิจเมตตาต่างๆ ในกรุงปารีสอีกหลายๆ องค์การ อันทำให้ท่านได้กลายเป็นผู้มีอิทธิพลในราชสำนักด้วย ท่านได้ตั้งกลุ่มสตรีและกลุ่มสัตบุรุษ ( คนที่มีสกุลด้วย ) ให้ทำการช่วยเหลือคนยากจน ท่านได้รับประกันที่จะช่วยเหลือพวกคนจน พวกทาส พวกนักโทษ และพวกที่น่าสงสาร ด้วยการที่ท่านได้พยายามขจัดพวกขี้เกียจทำงานแล้วมานั่งขอทาน โดยพยายามหางานให้พวกเขาทำ ท่านได้ให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ที่มีความอดอยาก และโรคติดต่ออันมีสาเหตุมาจากสงคราม

ความรักเมตตาของนักบุญ วินเซนต์ เดอ ปอล แผ่ขยายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง งานที่เด่นของท่าน ชิ้น ซึ่งเป็นเกียรติแก่ท่านเองคือ ความมีใจร้อนรนของท่านต่องานแพร่ธรรมท่ามกลางคนบ้านนอกในสมัยของท่าน โดยได้ตั้งคณะ “พระสงฆ์แพร่ธรรม” ( Lazaristi ) สำหรับการนี้โดยเฉพาะ คือสำหรับจะสร้างพระสงฆ์ตามหมู่บ้านต่างๆ และงานอีกชึ้นหนึ่งก็คือความเอาใจใส่เป็นห่วงที่จะพยายามยกฐานะของชนชั้นกรรมาชีพในเมืองหลวงให้สูงขึ้น โดยได้ตั้งคณะ “ธิดาแห่งความรัก” อาศัยความร่วมมือของนักบุญ ลุยซา เดอ มารีลลัค

ในศตวรรษที่ 16 ประเทศฝรั่งเศสจึงได้แลเห็นคน ๆ หนึ่งที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย คนที่อ่อนโยนน่ารักอยู่เสมอ มีความศรัทธาแกร่งกล้า โดยอาศัยแบบอย่างของท่านนี้เองที่เป็นแรงดลใจให้เกิดองค์การต่างๆ เหล่านี้ มี “สมาคมนักบุญ วินเซนต์ เดอปอล” ชึ่งตั้งขึ้นโดยอาศัยการริเริ่มของเฟรเดอ โอซานัม ( 1813 - 1853 ) ชายหนุ่มอายุ 20 ปี สมาคมนี้จะมีหน้าที่เอาใจใส่ไปเยี่ยมและช่วยเหลือคนจนถึงที่บ้าน

คำภาวนาทูลขอและข้อปฏิบัติ
1. ข้าแต่พระเยซูเจ้า โปรดช่วยเราให้เป็น “เพื่อนบ้าน” กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือด้วย เถิด

2. ความรักเมตตาจะเป็นความจริงก็ต่อเมื่อผลักดันให้เราทำความดีให้กับผู้อื่น

3. ขอให้เราสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้เสมอ เมื่อเขามีความต้องการ

4. ข้าแต่พระเยซูเจ้า โปรดช่วยเหลือทุกคนที่ทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นด้วยเถิด

 

ข้อมูลจากเวปไซด์สังฆมณฑลจันทบุรี

 

 

 

พระวาจาของพระเจ้า

บทอ่านที่ 1       โยบ 3:1-3,11-17,20-23

ต่อมา โยบอ้าปากสาปแช่งวันเกิดของตน 2 โยบเริ่มพูดว่า

 “วันที่ข้าเกิดมาจงพินาศเถิด

ทั้งคืนที่มีคนพูดว่า

เด็กชายคนหนึ่งปฏิสนธิ์แล้ว1

ก็จงพินาศด้วย

11 ทำไมข้าจึงไม่ตายเสียตั้งแต่ในครรภ์

ทำไมข้าจึงไม่ขาดใจเมื่อออกมาจากครรภ์มารดา

 12 ทำไมผู้คนจึงรับข้าไว้บนเข่า

ทำไมจึงมีหัวนมให้ข้าดูด

 13 มิฉะนั้นแล้ว บัดนี้ข้าคงนอนสงบ

ข้าคงหลับและพักผ่อนในสันติ

 14 กับบรรดากษัตริย์และผู้ปกครองแผ่นดิน

ผู้ได้สร้างอนุสาวรีย์ที่ฝังศพสำหรับตน 

 15 หรือกับเจ้านายที่มีทองคำ

และสะสมเงินไว้เต็มที่ฝังศพของตน 

 16 ข้าคงจะไม่มีความเป็นอยู่เหมือนลูกที่แท้งและถูกซ่อนไว้

เหมือนทารกซึ่งไม่เคยเห็นแสงสว่าง

 17 ที่นั่นคนชั่วร้ายหยุดดิ้นรน

ที่นั่นผู้ที่หมดกำลังได้พักผ่อน

20 ทำไมผู้ที่ทนทุกข์จึงได้รับแสงสว่าง

ผู้ที่มีใจขมขื่นจึงได้รับชีวิต

 21 เขาคอยความตาย แต่ความตายก็ไม่มา

เขาแสวงหาความตายมากกว่าขุดหาทรัพย์สมบัติที่ซ่อนอยู่

 22 เขายินดีอย่างยิ่ง9

และชื่นชมเมื่อพบหลุมฝังศพ

 23 ทำไมจึงประทานความสว่างแก่ผู้ที่ไม่มีวันจะเห็นหนทางของตน

และแก่ผู้ที่พระเจ้าทรงกั้นไว้ทุกด้าน

 

 

พระวรสาร       ลก 9:51-56

51 เวลาที่พระเยซูเจ้าจะต้องทรงจากโลกนี้ไป13 ใกล้เข้ามาแล้ว พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่จะเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม 52 และทรงส่งผู้นำสารไปล่วงหน้า คนเหล่านี้ออกเดินทางและเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของชาวสะมาเรียเพื่อเตรียมรับเสด็จพระองค์ 53 แต่ประชาชนที่นั่นไม่ยอมรับเสด็จเพราะพระองค์กำลังเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม 54 เมื่อยากอบและยอห์นศิษย์ของพระองค์เห็นดังนี้ก็ทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ทรงพระประสงค์ให้เราเรียกไฟจากฟ้าลงมาเผาผลาญคนเหล่านี้หรือไม่ดังที่ประกาศกเอลียาห์ได้กระทำ 55 พระเยซูเจ้าทรงหันไปตำหนิศิษย์ทั้งสองคนทรงตำหนิว่า “ท่านไม่ทราบว่าจิตใจของท่านทำด้วยอะไร บุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาไม่ใช่เพื่อทำลาย แต่เพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดพ้น”  56 แล้วทรงพระดำเนินต่อไปยังหมู่บ้านอื่นพร้อมกับบรรดาศิษย์

 

Ë

ขอพระเจ้าอวยพร

**************************

 

  

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น